น้ำมันเสน่ห์โลหิตบรมครู
แบ่งให้บูชา หัวเชื้อน้ำมันโลหิตบรมครู น้ำมันเสน่ห์ระดับหัวเชื้อเข้มข้นของเก่าเก็บของอาจารย์หมัด(ครูทิพย์)ที่ท่านทำไว้สมัยยังมีชีวิตอยู่
***เป็นน้ำมันหัวเชื้อเก่า มีความข้น หนืด และมีกลิ่นแรงมาก***
***มีวัตถุอาถรรพ์ที่อยู่ในน้ำมัน สามารถแยกบูชาได้ครับ***
-ฤๅษีเนื้อโลหะที่ครูทิพย์ทำพิธีเชิญคุรุยีจีเข้าสถิตย์
-ลูกอมผงบุหงาแดกีดำของครูทิพย์
น้ำมันเสน่ห์ตำรับโบราณ สายบรมครูยีจี ครูขลับ ครูลาย แม่ทวดนุ่ม
สุดยอดเรื่องเมตตาเจรจาค้าขายผู้คนให้การอุปถัมป์ค้ำจุน
ประวัติความเป็นมาของน้ำมันโลหิตบรมครูและสีผึ้งพิษวาท
น้ำมันโลหิตบรมครูและสีผึ้งพิษวาท นั้น เราเริ่มเอาน้ำมันจากโหลใหญ่มาบรรจุใส่ขวดแก้วไว้ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๔ บรรจุออกมาเป็น ๓ ชุด และชุดนี้คือชุดที่สองที่เปิดให้ร่วมบูชา (ชุดแรกคือชุดที่ผสมน้ำมันกับสีผึ้งลงในขวดเดียวกัน) ชุดที่สองนี้เข้มกว่า ข้นกว่า และอาถรรพ์แรงกว่าชุดแรกมาก จึงต้องตั้งเครื่องพิธีพลีเพิ่มขึ้นอีกถึงสามรอบใหญ่ ทำให้ออกให้ร่วมบูชาช้ากว่าชุดแรกทั้งๆที่สร้างมาก่อนชุดอื่นๆเสียอีก เนื่องจากระยะเวลายาวนานและต้องตั้งเครื่องพิธีนับสิบๆครั้ง ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่าสองหมื่นถึงสี่หมื่นบาท จึงทำให้ราคาแพงเอาการ แต่ทว่าเมื่อเปิดให้ร่วมบูชากลับหมดไวจนไม่พอต่อความต้องการทุกครั้งไป
ซึ่งปัจจุบันน้ำมันโลหิตบรมครูหัวเชื้อเดิมนั้นตกทอดมาถึงเราอยู่สี่โหลยาดอง น้ำมันอื่นๆอีกสามโหลยาดอง สีผึ้งพิษวาทของครูขลับเหลืออยู่แค่อุ้งมือเดียว สีผึ้งพิษวาทของครูทิพย์มีอยู่๒โหลยาดองใหญ่ และทั้งน้ำมันและสีผึ้งเหล่านี้เองที่ใช้เป็นหัวเชื้อทำวัตถุอาถรรพ์หลายต่อหลายรุ่น เพราะถ้าจะหุงขึ้นใหม่ให้ได้เทียบเท่าของเดิมที่อาจารย์สร้างไว้นั้นเป็นไปได้ยาก ในเมื่อมีหัวเชื้ออยู่ในมือก็ไม่จำเป็นต้องลำบากอะไรขนาดนั้น
น้ำมันและสีผึ้งยอดเสน่หาสายบนแห่งบรมครูยีจี
(สายบนคือเน้นเมตตามหานิยมต่อฅนหมู่มากเป็นหลัก
ส่วนสายล่างคือเน้นพระเวทย์เรื่องกำหนัดเป็นเอก)
มาอ่านประวัติกระบวนการในการหุงน้ำมันและสีผึ้งกันครับว่าทำไมจึงเกริ่นในย่อหน้าแรกว่า “ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้น” ลองอ่านเนื้อหาต่อไปนี้ก่อนแล้วจะรู้ว่าลำบากน่ะแค่ไหนกัน ซึ่งเนื้อหานี้คือย่อแล้วนะ จะให้บอกหมดคงไม่ได้ ประเดี๋ยวจะถูกคัดลอกไปอ้างในการเขียนนิยายบ้าๆบอๆเสียเปล่าๆ น้ำมันโลหิตบรมครูและสีผึ้งพิษวาทนี้จะทำคู่กันในพิธีเดียวกัน การประกอบพิธีแต่ละครั้งกินเวลาไม่ต่ำกว่า ๖ ชั่วโมง ซึ่งน้ำมันโลหิตบรมครูและสีผึ้งพิษวาทนั้นมีเฉพาะเพียงอาจารย์หมัดที่ทำได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายๆประการจึงทำให้แม่ทวดนุ่มไม่สามารถหุงน้ำมันและสีผึ้งชุดนี้ได้
กรรมวิธีก่อนอื่นเริ่มต้นที่จัดหาพืชอาถรรพ์ไพร ไม้รัก ไม้มะยม ไม้มะรุม ไม้ขนุน ไม้ยอ ต้นสวาท(ทั้งต้นและรากจำนวนนับสิบๆต้น) กาฝากห้าชนิดอันได้แก่ กาฝากรัก กาฝากมะรุม กาฝากมะยม กาฝากกาหลง กาฝากยอ ว่านเสน่ห์เมตตามหาลาภสามสิบสอง น้ำมันมะพร้าวลงสรงองค์เทพบิดร องค์ปฐมเวทกร คู่องค์เทพมารดร องค์อันนปูรณา น้ำมันอาบเหรียญอาถรรพเวท ๒๑ เหรียญ คำนวณกำหนดฤกษ์งามยามมงคล ตั้งเครื่องบวงสรวงเทพเจ้าชุดหนึ่ง ตั้งเครื่องพลีถวายครูอาจารย์ชุดหนึ่งและตั้งเครื่องขมาองค์ปลัดตัวครูอีกชุดหนึ่งเพราะต้องทำองค์ปลัดนี้สัมผัสกับน้ำมันที่เดือด เริ่มการก่อกองไฟกลางแจ้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยใช้กิ่งไม้ต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น บุหงาสิบสองชนิด (คิดดูเอาเองว่าต้องใช้จำนวนมากเท่าไร) ระหว่างการก่อกองไฟด้วยไม้อาถรรพ์กล่าวสาธยายมนต์สรรเสริญเทพบิดรเทพมารดรและครูอาจารย์ เขียนอักขระหัวใจเสน่หา ๑๙ พยางค์ลงใจกลางกะทะทองเหลือง และล้อมรอบขอบกะทะด้วยนามครูทั้ง๒๑องค์ (สูตรอักขระชุดนี้จะไม่มีกระดูกยันต์) ตั้งกะทะบนกองไฟ วางองค์ปลัดตัวครูไว้กึ่งกลางกะทะ ใส่กาฝากทั้งห้า ว่านเสน่หาทั้งสามสิบสอง ไม้เสพไม้ น้ำมันหัวเชื้อเดิมของครูขลับ น้ำมันลงสรงองค์เทพบิดรเทพมารดร ปิดท้ายด้วยหัวใจสำคัญนั่นคือผงชาดที่ผ่านการลบผงอักขระพระเวทย์ เคี่ยวน้ำมันโดยใช้โคนต้นสวาทส่วนที่ติดรากเป็นส่วนที่จมอยู่ในน้ำมัน สาธยายโองการประชุมพระเวทย์ ปลุกอิทธิฤทธิ์อาถรรพ์พืช อ่านมนต์เสน่หาสะกดจิตสี่สิบห้าเข้าสำทับต่อด้วยมนต์เจ้าทรัพย์อีกยี่สิบสี่
จากนั้นก็นำวัตถุอาถรรพ์ต่างๆในกะทะออกทั้งหมด โดยแยกน้ำมันไว้หกส่วน อีกสามส่วนไว้หุงสีผึ้งต่อ ขี้ผึ้งที่ทำมานั้นต้องเป็นขี้ผึ้งแท้จำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็คือขี้ผึ้งที่ใช้ปั้นหุ่นประกอบในพิธีผูกจิตมาชำระล้างอาถรรพ์ด้วยโองการมหาเชิงงอน เริ่มเคี่ยวครั้งที่สองโดยใช้กิ่งไม้เสพไม้เป็นตัวเคี่ยวแทนไม้พาย กล่าวมนต์เสน่หาสะกดจิตสี่สิบห้าเข้าสำทับต่อด้วยมนต์เจ้าทรัพย์ยี่สิบสี่อีกรอบหนึ่ง เป็นอันสำเร็จพิธีหุงสีผึ้งและน้ำมัน แต่ยังไม่จบเรื่อง เพราะต้องเชิญญาณบารมีครูดำมาเสกอีกนับสิบรอบกว่าแบ่งไปให้บูชาพกพาติดตัว
ลักษณะน้ำมันโลหิตบรมครูและสีผึ้งพิษวาทนั้นจะเป็นสีแดงเพลิง เพราะใส่ผงชาดนั่นเองครับ แต่อย่าลืมว่าเมื่อผงชาดตกตะกอน ตัวน้ำมันจะมีสีอมส้ม ไม่ได้แดงเพลิงอยู่ตลอด
ท้ายที่สุด ขอจบตอนนี้ด้วยประโยคที่ครูขลับบอกกับอาจารย์หมัดและแม่ทวดนุ่ม ฟังแล้วคิดเอาเองนะครับว่าท่านกำลังจะบอกอะไร
นี่มึง ใช่จะไม่มีคนถามกูนะว่าวิชาเสน่ห์ของกูมันเป็นวิชาบาปไหม จะให้กูตอบยังไงดีวะ สมมุติว่าถ้าบาปจริงกูก็ขอรับบาปนั้นไว้แล้วให้มันตายไปกับตัว แต่กูก็จะอุดมไปด้วยกุศลเช่นกัน เพราะกูมีส่วนทำให้คนขึ้นสวรรค์ทั้งกายหยาบ
สนใจสอบถามทางข้อความ หรือ
Id line : jirapat006
รับประกันแท้100%